สารบัญ
3. ฐานข้อมูลพื้นที่ที่มีการติดตั้งระบบเตือนภัยสาธารณะ
ภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่อาจป้องกันได้ เปรียบเสมือนชะตากรรมที่ต้องยอมรับ และผลกระทบ เหล่านั้นไม่ว่าการสูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน ในแต่ละปีมีจำนวนมาก แนวคิดนี้ จึงมองถึงหน้าที่ของรัฐและสังคมมุ่งที่จะเข้าช่วยเหลือและบรรเทา เฉพาะหน้า เพื่อกู้สถานการณ์ในพื้นที่ประสบภัยให้คืนสู่สภาวะปกติ จึงมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก เงินที่ใช้จ่ายเพื่อแก้ปัญหาและบรรเทาทุกข์น่า จะนำไปใช้จ่ายในการพัฒนาป้องกัน ภัยพิบัติให้ทั่วถึงและยั่งยืนแทน และยังลดความเสี่ยง ความรุนแรงที่จะได้รับจากภัยพิบัติ
กลยุทธการป้องกันไม่เพียงแต่จะประหยัดเงินทองเป็นหมื่นล้าน แต่ยังช่วยชีวิตคนเป็นหมื่น ๆ คน
ทำอย่างไรถึงจะสร้างแนวคิด วัฒนธรรมให้รู้จักเรื่องการป้องกันภัยพิบัติ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งในระดับนโยบายทั้งนี้เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง เพื่อป้องกัน ภัยพิบัติในปัจจุบันแต่จะเห็นผลในอนาคตข้างหน้า และเห็นผลดังกล่าว จะมองไม่เห็น เป็นรูปธรรมทั้งนี้ เพราะภัยพิบัติยังไม่ได้เกิดขึ้นภัยพิบัติเกิดขึ้นได้ทุก พื้นที่ และผู้ได้รับผลกระทบ คือ ประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ หากมีการเตรียมพร้อมในการป้องกันภัยพิบัติล่วงหน้าก็จะสามารถป้องกันลดความรุนแรงที่จะได้รับ ลงได้และยังสามารถฟื้นฟูความเสียหายให้กลับคืนสู่สภาวปกติได้อย่างรวดเร็วปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกับการจัดการสาธารณภัยมิใช่หน้าที่ของหน่วยงานหนึ่งใด หน่วยงานหนึ่ง หรือของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะแต่เป็นเรื่องของทุกคนทุกหน่วยที่ะต้องมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในการจัดการสา ธารณภัยทุกขั้นตอน เมื่อมองไปยังพื้นที่เสี่ยงภัย ชุมชนที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติ จึงเป็นกลุ่มแรกที่อาจจะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ทำอย่างไรให้ชุมชน ในพื้นที่มีส่วนร่วมในการจัดการภัยพิบัติของชุมชน นั่นคือที่มาของแนวคิดในการ
จัดการภัยพิบัติโดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน (Community Base Disaster Risk Management “CBDRM”)